ทำอย่างไรเมื่อต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆ

08/09/2015 14:53
ทำอย่างไรเมื่อต้องจอดรถท


       ในหลาย ๆ ครั้งที่คุณจะต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ หลายสัปดาห์ เป็นเดือน ๆ หรือหลายเดือนเนื่องจากคุณมีเหตุจำเป็นเช่น ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือบางบ้านมีรถหลายคัน บางคันจอดไว้เฉย ๆ ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือไม่ได้ใช้รถทุกวัน ซึ่งจริง ๆ แล้วการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ได้ใช้มันจะมีผลเสียกับรถเราอย่างแน่นอนและผมมั่นใจว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่ามันมีผลเสียหลายอย่างเช่น แบตเตอรี่เสื่่อมเร็วกว่าอายุขัยของมัน ยางเสียรูป ถ้าจอดตากแดดก็ทำให้สีซีดและอื่น ๆ อีกต่าง ๆ นา ๆ
วันนี้ก็เลยจะนำเอาวิธีการดูแลรถเราในช่วงที่เราต้องจอดเค้าทิ้งไว้นาน ๆ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่ผมบอกไปข้างต้น ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากเลยครับ เรามาดูกันเลยครับ

1. ล้างรถให้สะอาด เพื่อไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกเกาะอยู่ที่สีรถนานเกินไปจนยากที่จะล้างออก ดูดฝุ่นภายในรถและถอดซักพรมปูพื้นได้ด้วยยิ่งดี
2. จอดรถไว้ในที่ร่ม กันแดดกันฝนได้ และหาผ้าคลุมรถไว้ ไม่ควรจอดใกล้สถานที่ชื้นแฉะหรือใกล้ถังขยะเพราะอาจมีโอกาสที่หนูเข้ามาอาศัยหรือทำรังใต้กระโปรงรถ
3. เติมลมยางให้แข็งกว่าปกติ การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ น้ำหนักที่กดทับอาจทำให้ยางเสียรูป ควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติเพื่อให้มีลมมากพอที่จะรักษารูปทรงของโครงสร้างยางให้เป็นปกติได้มากที่สุด เหมือนรถที่ประกอบเสร็จจากโรงงานและต้องขนส่งทางเรือ โรงงานจะเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติเพื่อไม่ให้ยางเสียรูป อัดลมไปเลยครับที่ 50-60 PSI ครับ มันไม่ระเบิดหรอกครับ เวลาจะใช้ค่อยปล่อยลมออกเท่าสเปคของรถ
4. ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อไม่ให้แบตหมด เนื่องจากรถยนต์จะยังคงดึงไฟจากแบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้สตาร์ทเครื่อง (ควรศึกษาข้อมูลก่อนถอดแบตเตอรี่ออก) มั่วไม่ได้นะครับ มันจะ spark ครับ เวลาถอดก็เอาขั้วลบออกก่อนตามด้วยขั้วบวก เวลาใส่ให้เอาขั้วบวกใส่ก่อนแล้วตามด้วยขั้วลบ เพื่อป้องกันการ spark
5. เช็คระดับของเหลวในเครื่องยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ เพื่อหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่ให้เกิดสนิม
6. หาคนมาสตาร์ทเครื่องให้สัปดาห์ละครั้ง (ถ้าเป็นไปได้) สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10-15 นาที หรือติดเครื่องเดินเบาสลับเหยียบคันเร่ง และเดินหน้าถอยหลังเพื่อเปลี่ยนจุดสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนน กรณีนี้ไม่ต้องถอดแบตออก
 
สิ่งที่ต้องตรวจเช็คก่อนจะนำรถกลับมาใช้อีก
 
1. แบตเตอรี่ หากสตาร์ทติดได้ดี หรือสตาร์ททีเดียวติดก็แสดงว่าแบตเตอรี่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่ถ้าเป็นรถเก่าหรือมีปัญหาไฟรั่วอาจจะมีปัญหาสตาร์ทไม่ติด อาจต้องเข็นสตาร์ทหรือพ่วงแบตสตาร์ท
2. ระดับของเหลว ก่อนใช้รถควรเปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำ ระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ว่าอยู่ในระดับปกติ มีการรั่วซึมหรือไม่ ถ้ามีรอยรั่วซึมควรเข้าศูนย์ไปตรวจเช็ค
3. ยาง ลมยางที่เพิ่มไว้อาจมีพร่องลงไปบ้างเล็กน้อย ปกติยางถ้าไม่ได้ใช้เฉลี่ยเดือนนึงอาจลดลงราว 1-2 ปอนด์
4. ระบบไฟ ทดลองเปิดไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรกทำงานปกติไหม
5. ยางปัดน้ำฝน ความร้อนที่สะสมอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพหรือเสียรูปทรง ฉะนั้น หากพบว่าใบปัดเสื่อมสภาพ แตกร้าว กวาดน้ำได้ไม่เกลี้ยงเหมือนเดิม ก็คงต้องเปลี่ยนใหม่สถานเดียว
เห็นไหมว่าไม่ยากเลย สละเวลาดูแลเมื่อต้องจอดทิ้งไว้สักหน่อยและอย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถก่อนกลับมาขับกันด้วยนะครับ
ติดตามเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ดีๆแบบนี้ได้ที่ www.q4car.com และ www.tqm.co.th  หรือ ความรู้เกี่ยวกับ  ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,รถมือสอง,ตลาดรถ,ประกันชีวิต
กันได้ตลอดครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรสามารถรอชมกันได้เลยครับ